1.Mclaren P1 LM
รถยนต์นั่งปลั๊กอินไฮบริดสมรรถนะสูง (Plug-in hybrid sport car) เครื่องยนต์กลางลำหลัง ขับเคลื่อนสองล้อท้าย (RMR) 2 ประตู 2 ที่นั่ง ผลิตโดยบริษัท แม็คลาเรน ออโตโมทีฟ บริษัทสัญชาติอังกฤษ รถได้เปิดตัวครั้งแรกในปี ค.ศ. 2012 ที่งานปารีสมอเตอร์โชว์[4]และเริ่มจำหน่ายให้เฉพาะกลุ่มลูกค้าที่ประเทศอังกฤษ ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2013[5] พี1 ทั้งหมด 375 คันได้ถูกจำหน่ายเรียนร้อยแล้วในเดือนพฤศจิกายน 2013[6] ส่วนพี1 ที่ปรับปรุงให้เป็นรถแข่งสนาม ใช้ชื่อว่า "พี1 จีทีอาร์" (P1 GTR) ได้เปิดตัวตามมาในปี 2015 ที่งานเจนีวามอเตอร์โชว์ ซึ่งจะจำหน่ายจำกัดจำนวนเพียง 35 คัน และพี1 ทั้ง 375 คัน จะอนุญาตให้เจ้าของเป็นเจ้าของได้เพียงคันเดียวเท่านั้น[7]
เป็น
แม็คลาเรน พี1 |
|
ภาพรวม |
บริษัทผู้ผลิต | แม็คลาเรน ออโตโมทีฟ |
เริ่มผลิตเมื่อ | ตุลาคม ค.ศ. 2013 – ธันวาคม ค.ศ. 2015 (375 คันรวมถึงคันต้นแบบ, GTRs 58 คันรวมกับคันต้นแบบอีก 2 และ LMs 5 คัน รวมกับ XP1LM คันต้นแบบอีกคัน) |
รุ่นปี | ค.ศ. 2014 – 2016 |
แหล่งผลิต | โวคิง, เซอร์รีย์, สหราชอาณาจักร |
ตัวถังและช่วงล่าง |
ประเภท | รถยนต์นั่งสมรรถนะสูง(Sports car) |
รูปแบบตัวถัง | 2 ประตู คูเป |
โครงสร้าง | เครื่องยนต์กลางลำหลัง ขับเคลื่อนสองล้อท้าย (RMR) |
รุ่นที่คล้ายกัน | แม็คลาเรน 12ซี แม็คลาเรน 650เอส |
ระบบส่งกำลัง |
เครื่องยนต์ | 3.8 L ทวิน-เทอร์โบ M838TQ V8 |
มอเตอร์ไฟฟ้า | McLaren ECU motor (904 hp รวม) |
ระบบเกียร์ | เกียร์ดูอัล-คลัช 7 จังหวะ |
ระยะทางที่วิ่งได้ | 480 กิโลเมตร (300 ไมล์) (EPA)[1] |
ระยะทางที่รถไฟฟ้าวิ่งได้ | 11 กิโลเมตร (6.8 ไมล์) (combined NEDC)[2] 31 กิโลเมตร (19 ไมล์) (EPA)[1] |
มิติ |
ระยะฐานล้อ | 2,680 มม. (106 นิ้ว) |
ความยาว | 4,588 มม. (181 นิ้ว) |
ความกว้าง | 1,946 มม. (77 นิ้ว) |
ความสูง | 1,188 มม. (47 นิ้ว) |
น้ำหนัก | 1,547 กก. (3,410 ปอนด์)[3] |
ระยะเหตุการณ์ |
รุ่นก่อนหน้า | แม็คลาเรน เอฟ1 |
พี1 นับเป็นรุ่นตัวสูงสุดของค่าย และเป็นสายการผลิตต่อจาก
แม็คลาเรน เอฟ1 ที่ยุติการผลิตไปเมื่อปี ค.ศ. 1998 โดยมีการนำเทคโนโลยี
ไฮบริดเข้ามาใช้รวมถึงเทคโนโลยีจากสนามแข่ง
ฟอร์มูลาวัน แต่พี1 ก็ไม่ได้คงการออกแบบให้มี 1+2 ที่นั่ง ที่มีที่นั่งตรงกลางเหมือน เอฟ1 สิ่งหนึ่งที่ยังคงไว้เช่นเดิมอาทิ การออกแบบให้เครื่องอยู่กลางลำท้าย และขับเคลื่อนด้วยล้อหลัง มีการใช้คาร์บอนไฟเบอร์โมโนค๊อก (Carbon fibre monocoque) ในโครงของรถ ส่วนหลังคาได้ใช้วัสดุใหม่ที่เรียกว่า "โมโนเคจ" (MonoCage) ซึ่งพัฒนามาจาก โมโนเซลล์ ที่เคยใช้กับ
12ซี สไปเดอร์ ที่มาในช่วงต้นปี ค.ศ. 2012 จุดเด่นของพี1 นั้นเป็นที่ไฟหน้าที่ลอกเลียนมาจากตราสัญลักษณ์ประจำยี่ห้อแม็คลาเรน
พี1 ได้ใช้เครื่องยนต์ McLaren M838TQ twin-turbo 3.8 ลิตร V8 ซึ่งสามารถให้กำลังได้ถึง 727 แรงม้า (542 kW) และแรงบิดที่ 719 นิวตัน/เมตร (531 lb ft) ส่วนเครื่องยนต์ไฟฟ้า สามารถทำกำลังได้ที่ 176 แรงม้า (131 kW) และแรงบิดที่ 260 นิวตัน/เมตร (192 lb ft) เมื่อรวมกันแล้วสามารถทำกำลังได้มากถึง 903 แรงม้า และแรงบิดที่ 978 นิวตัน/เมตร สำหรับในเรื่องของอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. สามารถทำได้ที่ 2.8 วินาที 0-200 กม./ชม. ได้ที่ 6.8 วินาที และ 0-300 กม./ชม. ได้ที่ 16.5 วินาที ซึ่งเร็วกว่า
แม็คลาเรน เอฟ1 ถึง 5.5 วินาที ในเรื่องของความเร็วสูงสุดของเครื่องยนตร์ไฟฟ้า สามารถทำได้ที่ 349 กม./ชม. (217 ไมล์/ชม.)
[8]
สำหรับราคาจำหน่ายเฉลี่ย พี1 สูงกว่า 1.6 ล้านดอลลาร์ หรือเป็นเงินไทยประมาณ 48 ล้านบาท
[9]ส่วนพี1 จีทีอาร์ นั้นมีราคาสูงถึง 2.8 ล้านดอลลาร์ หรือ 84 ล้านบาทในเงินไทย
[10]
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น